ผู้ว่าราชการจังหวัดน่านนำคณะเข้าหารือผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้สู่การเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก
วันที่ 8 มิถุนายน 2566 ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นำคณะภาครัฐและเอกชนเข้าพบปะเพื่อหารือกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อหารือศึกษาแนวทางการพัฒนาพื้นที่สู่การเป็น สมาชิกเครือข่ายสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก ซึ่งกรุงเทพมหานครได้เป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโกประเภทการออกแบบ เมื่อปี 2562 โดยปีนี้ประเทศไทยมีจังหวัดที่ส่งใบสมัคร 4 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดน่าน จังหวัดเชียงราย จังหวัดนครปฐม และจังหวัดสุพรรณบุรี ขณะที่จังหวัดน่านได้ส่งใบสมัครไปแล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมาและคาดว่าจะประกาศผลประมาณเดือน ตุลาคม 2566 การเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโกนั้นจะส่งผลดีทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยว ที่เชื่อมโยงในระดับโลก ขณะนี้ประเทศไทยมีจังหวัดที่ได้รับการประกาศเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก 5 จังหวัด ประกอบด้วยกรุงเทพมหานคร ด้านการออกแบบ ภูเก็ตและเพชรบุรี ด้านอาหาร สุโขทัยและเชียงใหม่เมืองสร้างสรรค์ ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน ซึ่งจังหวัดน่านได้สมัครเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโกด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน ซึ่งหากจังหวัดน่านผ่านเข้ารอบเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก ก็จะลงนามในบันทึกข้อตกลงกับกรุงเทพมหานครเป็นบ้านพี่เมืองน้อง เพื่อเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ที่ร่วมพัฒนาและส่งเสริมการค้าการลงทุนการท่องเที่ยวต่อไป นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ความร่วมมือในทุกด้าน ทั้งนี้ได้มอบหมายให้คณะทำงาน ตั้งเป็นคณะที่ปรึกษาให้แก่จังหวัดน่าน เพื่อที่จะร่วมมือการดำเนินงานด้านต่างๆ ทั้งการเชื่อมโยง การจัดแสดงสินค้าที่ลานคนเมือง การแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมและอื่นๆ นอกจากนี้คณะยังได้ศึกษาดูงานพื้นที่ต้นแบบย่านเจริญกรุง โดยเฉพาะชุมชนย่านตลาดน้อย ซึ่งได้ดัดแปลง พัฒนาพื้นที่ จัดระบบสาธารณูปโภค ให้สามารถมาเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวบ้านในพื้นถิ่น รักษาเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ ของชุมชน สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านได้เป็นอย่างดีให้คนสามารถอยู่ร่วมกัน ภายใต้พหุวัฒนธรรม อันเป็นการพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน

image รูปภาพ
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image


คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar